กรดแพนโทเทนิก (pantothenic acid) หรือ วิตามินบี5 (vitamin B5) เป็นวิตามินในการสร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยสร้างเซลล์ใหม่และช่วยบำรุงระบบประสาท
วิตามินบี 5 มีชื่อเรียกว่า Pantothenic Acid เป็นสารที่จำเป็นในการสร้างโคเอนไซม์เอ (Coenzyme-A หรือ CoA) และเป็นสารสำคัญในการสร้าง โปรตีน ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต ชื่อของวิตามินบี 5 มีรากศัพท์มาจากคำว่า “Pantothen” ในภาษากรีก ซึ่งหมายถึง “มาจากทุกที่” เพราะว่าวิตามินบี 5 นี้มีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด
ประโยชน์ต่อร่างกาย
- ช่วยสร้างแอนติบอดีซึ่งเป็นตัวสำคัญของภูมิชีวิต
- เมื่อร่างกายเปลี่ยนไขมันที่สะสมไว้ให้เป็นน้ำตาลเพื่อสร้างพลังงาน วิตามินบี5 จะเป็นตัวสำคัญในการเปลี่ยนไขมันเป็นน้ำตาล
- ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
- ช่วยให้ร่างกายหายจากการช็อกหลังการผ่าตัดใหญ่
- ช่วยให้อาการอ่อนเพลียหายเร็วขึ้น
- เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของต่อมอะดรีนัล และช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนสำคัญ เพื่อรักษาสุขภาพของผิวหนังและระบบประสาท
- ช่วยในการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เพื่อให้ได้พลังงาน
- ช่วยเปลี่ยนคอเลสเตอรอลเป็นฮอร์โมนสำหรับต่อต้านความเครียด ป้องกันอาการอ่อนเพลีย
- ช่วยในการป้องกันโรค และสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค
- ช่วยป้องกันริ้วรอย
- ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
- ช่วยให้ทนต่อความเครียดได้มากขึ้น
- ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเพิ่มขึ้น
- ช่วยลดการเกิดสิว
แหล่งที่พบวิตามิน บี 5 มากที่สุดคือ ในตับ รองลงมาได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่ว เมล็ดธัญพืช ไข่แดง บริวเวอร์ยีสต์ เป็นต้น
ผลของการขาด
ส่วนใหญ่แล้วไม่พบว่ามีปัญหาใดเกิดขึ้นจากการขาดวิตามินบี 5 เพียงอย่างเดียว อาการที่อาจเกิดขึ้นได้บ้าง ได้แก่ อาเจียน กระสับกระส่าย ปวดท้อง ท้องอืด รู้สึกร้อนที่เท้า (Burning Feet Syndrome) เป็นตะคริว อ่อนเพลีย หลับไม่สนิท ซึมเศร้า และหงุดหงิด
การขาดวิตามินบี 5 นั้นยากมากเพราะมีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด ดังนั้นคนที่ขาดวิตามินชนิดนี้ มักจะเป็นผู้ที่ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง และขาดวิตามินหลายชนิดพร้อมกัน การขาดวิตามินบี 5 ทำให้ไม่สามารถสร้างโคเอนไซม์เอ (CoA)ได้จึงทำให้เกิดอาการคือ
- หงุดหงิดง่าย
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- ชา
- เป็นตะคริวได้ง่าย
- น้ำตาลในเลือดต่ำ
- นอนไม่หลับ
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- เบื่ออาหาร
- ปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนไฟลวกเท้าหรือที่เรียกว่า “Burning Feet Syndrome”
ผลของการได้รับมากเกินไป
วิตามิน บี 5 จะถูกขับถ่ายออกทางปัสสาวะ และอีกส่วนน้อยทางเหงื่อ โดยปกติแล้ววิตามินบี 5 มักไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ
จาก http://www.triphathara.com/
วิตามินบี 5 ช่วยลดสิว และป้องกันการเกิดสิวอย่างปลอดภัย
รักษาสิว บำรุงผิวพรรณ แห้งแตกเป็นขุย
คนส่วนใหญ่ต้องการวิตามิน B5 ให้กับร่างกายจำนวนมากโดยปริมาณที่ร่างกายต้องการคือ 10 กรัมต่อวัน ซึ่งมันจะทำให้ได้ผลในการช่วยให้สิวดีขึ้น
แม้ว่าวิตามินB 5 นั้นเราจะสามารถได้รับโดยตรงจากอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวัน แต่บางคนก็ยังคงขาดวิตามินตัวนี้ เช่น คนที่ไม่ชอบรับประทานผัก หรือเครื่องในสัตว์ ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างเอมไซม์ขึ้นมาทดแทนในส่วนร่างกายสูญเสียไป
โดยปกติวิตามินบี 5 จะมีหน้าที่ในการสร้าง Coenzyme-A ซึ่งคนที่เป็นสิวมากๆจะขาดเอนไซม์ตัวนี้ที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดี
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามาก จึงทำให้เกิดสิว ซึ่งเมื่อร่างกายมีโคเอนไซม์เอเพียงพอก็จะทำให้เผาผลาญไขมันได้ปกติ
ทำให้หน้าไม่มัน และทำให้ไม่มีสิวในที่สุด และ Roaccutane ที่พวกเรารู้จักกันนั้นก็มีหลักการทำงานคล้ายๆกันคือ ไปบีบให้ต่อมไขมันผลิตไขมันน้อยลง แต่มันจะทำงานโดยไปบังคับให้ต่อมไขมันหดตัว แต่วิตามินบี 5 ไม่ได้ไปทำให้ต่อมไขมันหดตัวแต่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไปแล้วจึงไม่มีไขมันออก มามากไป และจะทำให้รูขุมขนของคุณเล็กลงในเวลาต่อมา ซึ่งจะทำให้หน้าคุณชุ่มชื้น ดูเนียน เรียบผิว ไม่แห้งแตกเป็นขุย โดยผลข้างเคียงน้อยกว่า Roaccutane
พูดง่ายๆก็คือ ถ้ามีช่วงไหนที่ร่างกายของคุณขาดวิตามินบี 5 หรือกรดแพนโททีนิก ก็จะทำให้มีCoenzyme-A ลดลง ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราสร้างฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจนขึ้นมาแทน ซึ่งฮอร์โมนแอนโดรเจน จะไปสร้างกรดไขมันอีกต่อหนึ่ง ทำให้เป็นสิวมากขึ้น ดังนั้นการรับประทาน บี5 จึงช่วยคุมเรื่องของฮอร์โมนแอนโดรเจน และกรดไขมันไม่ให้มากเกินไปนั่นเอง
ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานเพื่อประโยชน์ในการรักษาสิว คือ
กรณีที่เป็นสิวมาก รับประทานครั้งละ1 เม็ด วันละ2 ครั้ง เช้า – เย็น
กรณีที่เป็นสิวน้อย หรือหลังจากที่หน้าดีขึ้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานปริมาณมากๆ อาจจะลดเหลือวันละ 1 เม็ดต่อวัน และถ้าสิวขึ้นมากก็ค่อยเพิ่มปริมาณ เช่นในช่วงมีประจำเดือน ให้รับประทานเพิ่ม เป็นวันละ 1-2 เม็ด
** กรณีที่ต้องการรับประทาน วิตามิน B5 เพื่อรักษาและป้องกันสิว ให้รับประทานวันละ 1 -2 เม็ด เป็นประจำทุกวัน ประมาณ 1 เดือน จะทำให้หน้าคุณดูเนียนเรียบ ผิวคุณผลิตน้ำมันน้อยลง ทำให้หน้าไม่มัน รูขุมขนเริ่มลดลง และทำให้ไม่มีสิวในที่สุด**
ที่มารายการ “สภาพสุข สุขภาพ”
Pantothenic Acid is a member of the B vitamin family; this vitamin is typically found in meat, eggs, legumes, mushrooms, broccoli and royal jelly. Pantothenic Acid is essential for the production of energy (via the Krebs Cycle), the synthesis of adrenal hormones, protein metabolism and wound healing.* Alcohol reduces pantothenic acid in tissues and impairs its metabolism.*
Keep out of the reach of children.
Suggested Usage
Take 1 capsule per day with a meal or as directed by your qualified healthcare professional.
NOTE: If you have a medical condition, are pregnant, lactating, trying to conceive, under the age of 18, or taking medications, consult your healthcare professional before using this product.
Other Ingredients
Cellulose and magnesium stearate (vegetable source). Capsule consists of gelatin.
No wheat, no gluten, no soybeans, no dairy, no egg, no fish/shellfish, no peanuts/tree nuts.
|